เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
เส้นทางเดินป่า
7
เส้นทาง
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว - น้ำตกกองแก้ว
ระยะทาง : 1.2 กม. เส้นทางเดินทางเดียว วนกลับมาที่เดิม
ระยะเวลา : 45 นาที - 1 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : ไม่จำเป็น
จุดเริ่มต้น : สะพานแขวนด้านหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
จุดสิ้นสุด : สะพานแขวนหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ทำการอุทยานฯ
ลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้ - น้ำตกเหวสุวัต
ระยะทาง : 3 กม. เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา : 2 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : ไม่จำเป็น
จุดเริ่มต้น : ลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้
จุดสิ้นสุด : น้ำตกเหวสุวัต
กม. 33 - หนองผักชี
ระยะทาง : 3.3 กม. เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา : 2.5 - 3 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : จำเป็น
จุดเริ่มต้น : ริมถนนบริเวณกิโลเมตรที่ 33
จุดสิ้นสุด : ริมถนนกิโลเมตรที่ 35 อยู่ถัดจากหอดูสัตว์หนองผักชีประมาณ 1 กม.
ดงติ้ว - อ่างเก็บน้ำสายศร
ระยะทาง : 2.7 กม. เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา : 1.50 - 2 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : จำเป็น
จุดเริ่มต้น : ริมถนนธนะรัชต์ ถัดจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปทางอ่างเก็บน้ำสายศร ประมาณ 200 เมตร
จุดสิ้นสุด : อ่างเก็บน้ำสายศร
ดงติ้ว - หนองผักชี
ระยะทาง : 5 กม. เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา : 3 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : จำเป็น
จุดเริ่มต้น : ริมถนนธนะรัชต์ ถัดจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปทางอ่างเก็บน้ำสายศร ประมาณ 200 เมตร
จุดสิ้นสุด : ริมถนนกิโลเมตรที่ 35 อยู่ถัดจากหอดูสัตว์หนองผักชีประมาณ 1 กม.
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว - น้ำตกเหวสุวัต
ระยะทาง : 8 กม. เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา : 6 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : จำเป็น
จุดเริ่มต้นเส้นทาง : สะพานแขวนด้านหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
จุดสิ้นสุดเส้นทาง : น้ำตกเหวสุวัต
200 ปีความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา
ระยะทาง : 2 กม. เส้นทางเดินทางเดียว วนกลับมาที่เดิมระยะเวลา : 1.5 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : ไม่จำเป็น
จุดเริ่มต้นเส้นทาง : สันอ่างเก็บน้ำสายศร
จุดสิ้นสุดเส้นทาง : ท้ายอ่างเก็บน้ำสายศร
หนึ่งในกิจกรรมที่ห้ามพลาดของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คือเดินป่าระยะสั้นที่มีให้เลือกถึง 7 เส้นทางด้วยกัน เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกไปสำรวจธรรมชาติกัน !
เส้นทางศึกษาธรรมชาติในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกอบด้วยเส้นทางเดินป่าระยะสั้นทั้งหมด 7 เส้นทาง ระยะทาง 1.2 - 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 45 นาที - 6 ชั่วโมง ไม่มีการพักค้างคืนในเส้นทาง เส้นทางส่วนใหญ่ยังคงความเป็นธรรมชาติและความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ไว้ โดยมีสัญลักษณ์ระบุเส้นทางเดินเป็นระยะๆ เพื่อป้องกันการเดินออกนอกเส้นทาง ผู้ที่เริ่มต้นเดินป่าและผู้ที่สนใจเรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติสามารถเดินได้ด้วยตนเอง
จะเดินป่าในเขาใหญ่ต้องทำอย่างไร?
ขัอที่ 1 | ตรวจสอบความพร้อมของเส้นทางโดยเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติทั้ง 7 เส้นทาง เปิดให้บริการในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน และตรวจสอบสภาพอากาศในวันที่เดินป่า |
ข้อที่ 2 | ศึกษาเส้นทาง การเตรียมความพร้อม และข้อปฏิบัติในการเดินป่าให้ดี |
ข้อที่ 3 | ติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อลงทะเบียนและทำเรื่องขออนุญาตเดินป่าในเส้นทางที่เลือก ซึ่งบางเส้นทางที่ไม่สามารถเดินตามลำพังได้ จะมีบริการไกด์นำเดินป่า เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว |
ข้อที่ 4 | เริ่มออกเดินทางตามเส้นทางที่ได้รับอนุญาต |
* ติดต่อสอบถาม : เบอร์โทรศัพท์ 086-0926529, 081-0639241
หมายเหตุ
เส้นทางที่ 1-5 และ เส้นทางที่ 7
สามารถเริ่มเดินได้ตั้งแต่ 8:00-14:00 น.
เส้นทางที่ 6
จะต้องเริ่มเดินไม่เกิน 10:00 น
เครื่องหมายที่จะพบในเส้นทางเดินป่าเพื่อป้องกันการออกนอกเส้นทาง |
ตัวเลขบน หมายถึง ตัวเลขประจำเส้นทางนั้น เช่น เส้นทางหมายเลข 2
ตัวเลขล่าง หมายถึง ระยะทาง หน่วยเป็นเมตร เช่น ระยะทาง 300 เมตร
เส้นทางเดินป่า
เส้นทางที่
1
1
1200
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว - น้ำตกกองแก้ว
เป็นเส้นทางเดินป่าระยะสั้นที่สุด และสภาพทางเดินสะดวกที่สุด เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย เส้นทางจะลัดเลาะในป่าดิบชื้นสลับกับป่าดิบแล้งที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระหว่างเส้นทางจะได้พบกับไม้กฤษณาหรือไม้หอม ซึ่งเป็นไม้ที่มีคุณค่า มีสารที่ให้กลิ่นหอมจรุงใจเมื่อโดนไฟเผา และอาจได้พบกับสัตว์ป่า เช่น ชะนีมือขาว ชะนีมงกุฎ และนกชนิดต่างๆ ด้วย ปลายเส้นทางจะพบกับน้ำตกกองแก้ว ที่ให้สัมผัสถึงความชุ่มฉ่ำเย็นของสายน้ำในป่าดิบ ซึ่งเกิดจากหินภูเขาไฟ และป่าพรุน้ำจืดที่เหมาะแก่การถ่ายภาพและศึกษาระบบนิเวศ
ระยะทาง : 1.2 กม. เส้นทางเดินทางเดียว วนกลับมาที่เดิม
ระยะเวลา : 45 นาที - 1 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : ไม่จำเป็น
จุดเริ่มต้น : สะพานแขวนด้านหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
จุดสิ้นสุด : สะพานแขวนหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ทำการอุทยานฯ
เปิดเส้นทางตลอดปี
เส้นทางที่
2
2
3000
น้ำตกผากล้วยไม้ - น้ำตกเหวสุวัต (160 ปี ความสัมพันธ์ ไทย-เยอรมัน)
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเชื่อมระหว่างสองน้ำตก ลัดเลาะไปตามลำห้วยลำตะคอง ผ่านป่าไผ่สลับกับป่าดิบ-แล้งเป็นระยะๆ ภายในเส้นทางจะได้ยินเสียงดังกึกก้อง ของน้ำตกผากล้วยไม้ในฤดูฝน แต่เมื่อน้ำลดลงในฤดูแล้ง จะได้พบเห็นร่องรอยการไหลของหินลาวาภูเขาไฟเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน รวมทั้งดอกไม้หินซึ่งเป็นพืชชนิดใหม่ของโลกที่จะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาให้ได้พบเห็นด้วย รวมทั้งหวายแดงอันเป็นที่มาของชื่อน้ำตกที่ผลิดอกเป็นช่อยาวสีแดงโดดเด่นบริเวณผาน้ำตกในช่วงเดือนเมษายน
นอกจากนั้นอาจพบเห็นสัตว์ที่ใช้ชีวิตเกี่ยวข้องกับสายน้ำเช่น ผีเสื้อ ตะกอง นาก ได้ รวมทั้งฝูงชะนีที่อาศัยบนยอดไม้ นกเงือกและนกเหยี่ยวที่บินหาอาหารไปมา ก่อนจะสิ้นสุดเส้นทาง จะพบกับลานหินที่สวยงามในลำธาร ซึ่งเห็นได้เฉพาะหน้าแล้งเท่านั้น
ระยะทาง : 3 กม. เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา : 2 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : ไม่จำเป็น
จุดเริ่มต้น : ลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้
จุดสิ้นสุด : น้ำตกเหวสุวัต
เปิดเส้นทางตลอดปี
เส้นทางที่
3
3
3300
กม. 33 - หนองผักชี (90 ปี ความสัมพันธ์ ไทย-สวิตเซอร์แลนด์)
เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จะได้สัมผัสความหลากหลายของประเภทป่าไม้ ได้แก่ ป่าดิบแล้งที่มีความสมบูรณ์ ป่ารุ่นสอง และทุ่งหญ้า มีต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ร่มเงาตลอดเส้นทาง เช่น ไทร หว้า ที่ดึงดูดนกและสัตว์ป่านานาชนิดเข้ามากินลูกไม้ จนได้รับสมญานามว่า “ภัตตาคารของสัตว์ป่า” และมีต้นกะเพรายักษ์เป็นไม้ที่มีเฉพาะป่าดงพญาเย็นเท่านั้น นอกจากนั้นยังเป็นเส้นทางออกหากินของช้างและกระทิง อาจพบเห็นร่องรอยของสัตว์เหล่านี้ได้ตลอดเส้นทาง เช่น รอยเท้าหรือมูล บางโอกาสอาจได้พบเห็นนกเงือกจับคู่ทำรังอยู่ในโพรงไม้หรือชะนีที่ห้อยโหนเก็บผลลูกไม้กิน
เมื่อเดินถึงหอดูสัตว์หนองผักชี สามารถเฝ้าดูสัตว์น้อยใหญ่ออกหากินตามแหล่งน้ำและดินโป่งในทุ่งหญ้าได้ เช่น ช้าง กระทิง ชะนี นกเงือก ซึ่งเห็นได้เฉพาะหน้าแล้งเท่านั้น
ระยะทาง : 3.3 กม. เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา : 2.5 - 3 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : จำเป็น
จุดเริ่มต้น : ริมถนนบริเวณกิโลเมตรที่ 33
จุดสิ้นสุด : ริมถนนกิโลเมตรที่ 35 อยู่ถัดจากหอดูสัตว์หนองผักชีประมาณ 1 กม.
เปิดเส้นทางตลอดปี
เส้นทางที่
4
4
2700
ดงติ้ว - อ่างเก็บน้ำสายศร
เป็นเส้นทางเดินทางเดียวที่จะนำไปสู่อ่างเก็บน้ำสายศร ที่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามตลอดเส้นทางจะได้สัมผัสกับป่าดิบแล้งและป่ารุ่นสอง ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของชะนีมือขาว ในฤดูฝนจะพบดอกไม้หลากหลายชนิด เช่น หงส์เหิน บีโกเนีย และชาฤาษี ไฮไลท์ของเส้นทาง คือ ต้นสมพงยักษ์ ที่มีอายุหลายร้อยปี
ส่วนในบริเวณป่ารุ่นสองที่มีพื้นที่ค่อนข้างโล่ง มีโอกาสพบนกหลายชนิด เช่น นกโพระดกหน้าผากดำ นกปรอดคอลาย ปรอดเหลืองหัวจุด นกบั้งรอกใหญ่ ซึ่งเห็นได้เฉพาะหน้าแล้งเท่านั้น
ระยะทาง : 2.7 กม. เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา : 1.50 - 2 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : จำเป็น
จุดเริ่มต้น : ริมถนนธนะรัชต์ ถัดจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปทางอ่างเก็บน้ำสายศร ประมาณ 200 เมตร
จุดสิ้นสุด : อ่างเก็บน้ำสายศร
เปิดเส้นทางตลอดปี
เส้นทางที่
5
5
5000
ดงติ้ว - หนองผักชี
มีจุดเริ่มต้นเดียวกับเส้นที่ 4 เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จะได้สัมผัสความหลากหลายของประเภทป่าไม้ ได้แก่ ป่าดิบแล้งที่มีความสมบูรณ์ ป่ารุ่นสอง และทุ่งหญ้า ลักษณะเส้นทางเป็นทางราบลุ่มสลับกับทางชันขึ้นเนินเขา ไฮไลท์ของเส้นทาง คือ ต้นสมพงยักษ์ที่มีอายุหลายร้อยปี ในช่วงหน้าฝน จะได้พบเห็นเห็ดป่า รูปร่างและสีสันต่างๆ เส้นทางนี้เป็นแหล่งหากินของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น ช้างป่า หมี นกเงือก ชะนี
ในช่วงสุดท้ายของทางจะตัดออกสู่ทุ่งหญ้าหอดูสัตว์หนองผักชี ที่สามารถเฝ้าดูสัตว์น้อยใหญ่ออกหากินตามแหล่งน้ำในทุ่งหญ้าได้ อาจได้พบช้าง กระทิง ชะนี นกเงือก และสัตว์อื่นๆ มากมาย
ระยะทาง : 5 กม. เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา : 3 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : จำเป็น
จุดเริ่มต้นเส้นทาง : ริมถนนธนะรัชต์ ถัดจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปทางอ่างเก็บน้ำสายศร ประมาณ 200 เมตร
จุดสิ้นสุดเส้นทาง : ริมถนนกิโลเมตรที่ 35 อยู่ถัดจากหอดูสัตว์หนองผักชีประมาณ 1 กม.
*ข้อควรระวัง : ในฤดูฝน อาจทำให้ไม่สามารถข้ามลำห้วยลำตะคองได้
เปิดเส้นทางตลอดปี
เส้นทางที่
6
6
8000
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว - น้ำตกเหวสุวัต
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเส้นทางนี้จะเป็นบทเรียนธรรมชาติบทใหญ่ ระยะทางค่อนข้างไกล สภาพป่าเป็นป่าดิบชื้นดิบแล้ง สลับกับป่าไผ่ในบางช่วง มีพันธุ์ไม้มีค่าหลายชนิด เช่น ต้นพะยูง ต้นกฤษณาหรือไม้หอมให้ได้ชมและศึกษา รวมถึงยังได้พบดงเฟิร์นและต้นเฟิร์นซึ่งเป็นเฟิร์นที่มีขนาดใหญ่ มีสัตว์ป่าชุกชุม เช่น ช้าง ชะนี หมีควาย นกเงือก
โดยรวมเป็นเส้นทางที่ท้าทาย มีความสลับซับซ้อน และยังเป็นแหล่งหากินของช้างป่า อาจทำให้สับสนในการใช้เส้นทาง จึงจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญเส้นทางในการนำทาง
ระยะทาง : 8 กม. เส้นทางเดินทางเดียว
ระยะเวลา : 6 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : จำเป็น
จุดเริ่มต้นเส้นทาง : สะพานแขวนด้านหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
จุดสิ้นสุดเส้นทาง : น้ำตกเหวสุวัต
*ข้อควรระวัง : ควรเริ่มเดินไม่เกิน 10:00 น. และเตรียมอาหารไปด้วย
ช่วงเวลาปิดเส้นทาง : 1 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม
เส้นทางที่
7
7
2000
200 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา
เส้นทางใหม่ล่าสุดของอุทยานเพื่อฉลองความสัมพันธ์อันยาวนานของทั้งสองประเทศ ซึ่งนอกจากเส้นทางจะปรากฏร่องรอยความสัมพันธ์ในประวัติศาสตร์ร่วมกันแล้ว การจัดทำเส้นทางยังใช้มาตรฐานของอุทยานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาภายใต้โครงการอุทยานพี่อุทยานน้อง (Sister Parks Arrangement for Resources and Knowledge Sharing: SPARK) ด้วย ระหว่างทางเดินจะได้สัมผัสกับความสวยงามของระบบนิเวศป่าไม้นานาพรรณ เช่น ป่าดงดิบแล้ง ป่ารุ่นสอง และทุ่งหญ้ากว้าง สัตว์ป่าที่พบบ่อยระหว่างเส้นทาง เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ฟ้าหลังขาว ชะนี นกเงือก เป็นต้น
ระยะทาง : 2 กม. เส้นทางเดินทางเดียว วนกลับมาที่เดิม
ระยะเวลา : 1.5 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่นำทาง : ไม่จำเป็น
จุดเริ่มต้นเส้นทาง : สันอ่างเก็บน้ำสายศร
จุดสิ้นสุดเส้นทาง : ท้ายอ่างเก็บน้ำสายศร
เปิดเส้นทางตลอดปี
ลองเดาซิ ร่องรอยเหล่านี้เป็นของสัตว์อะไร ?
ในระหว่างการเดินป่าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือการแกะรอยสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น เป็นกิจกรรมที่ชวนให้เราได้ค้นหาอยู่เสมอๆ แม้ว่าเราจะไม่ได้พบเห็นสัตว์ป่านั้นโดยตรงก็ตาม ซึ่งการจะพบสัตว์ใหญ่มีโอกาสน้อยมาก เพราะที่จริงแล้วเราเองเป็นสิ่งแปลกปลอมในความรู้สึกของสัตว์ป่าซึ่งมีสัญชาตญาณการระแวดระวังสูง พวกมันจึงหลบหนีหรือซ่อนตัวไม่ปรากฎให้เห็น คงเหลือแต่เพียงร่อยรอยต่างๆ ไว้ให้เราได้ค้นหาและถอดรหัสกันนั่นเอง
รอยตีนกวาง
เฉลย
รอยตีนกระทิง
เราสามารถจำแนกชนิดสัตว์ป่าจากรอยตีนที่ปรากฎบนพื้นดินได้ เช่น เป็นสัตว์กีบหรือสัตว์ผู้ล่า
รอยตีนกระทิง
มูลกระทิง
เฉลย
มูลอีเห็น
กองมูลที่ถูกถ่ายทิ้งอยู่กลางป่า ก็บอกให้เรารู้ได้ว่า บริเวณนั้นมีสัตว์ป่าชนิดใดหากินอยู่
มูลอีเห็น